[Help] เรื่องของความร้อน เวลาขับรถระยะทางไกล SR20DET มีทางแก้มั้ยครับ

การสนทนาใน 'Sunny Thailand' เริ่มโดย mtts. 38, 28 กันยายน 2013

< Previous Thread | Next Thread >
  1. mtts. 38

    mtts. 38 New Member Member

    1,236
    12
    0
    ผมขับไปต่างจังหวัดเต็ม ขับยาวๆลากได้แค่ 120-130 เกินนี้หรือกด
    ความร้อนจะขึ้นทั้งนํ้ามันและหม้อนํ้า ความร้อนข้างนอก 30 องศาขึ้นมีทางแก้มั้ยครับ
    หรือติดออยแยกนั้ามันเครื่อง+นํ้ามันเกียร์ จะช้วยได้มั้ยครับ
     
  2. xxart

    xxart New Member Member

    3,202
    193
    0
    Defi ขึ้นเท่าไหร่
    แล้วหน้าปัดรถขึ้นเท่าไหร่



    Sent from Windows Mobile English version using Tapatalk
     
  3. mtts. 38

    mtts. 38 New Member Member

    1,236
    12
    0
    ความร้อนนั้ามันเครื่องผมตั้งไว้ที่ 105 หม้อน้าตั้งไว้ที่ 100 ในไมล์ปกติ ไม่ขึ้นครับพี่
     
  4. xxart

    xxart New Member Member

    3,202
    193
    0
    ลองปิดแอร์ แล้วดูว่าความร้อนลดลงเปล่า
     
  5. Pee

    Pee New Member Member

    25
    1
    0
    จากประสบการณ์ที่เคยเปน ลองเร่งเคร่ื่องดู ดูท่อน้ำ ล่างบน มันแฟบลง เนื่องจาก มันหมดอายุ

    ทำให้น้ำใหลเข้าเครื่องน้อยในรอบสูง ลองดูคับ ถ้าไม่ใช่ ตามคุณ xxart พัดลมน่าจะไม่แรง
     
  6. Pee

    Pee New Member Member

    25
    1
    0
    ความร้อนน้ำปกติควรตั้งไว้ที่ 95 คับ ถ้า 100 บางทีเตือนไม่ทัน 100 น้ำเดือดแล้วคับ
     
  7. jojo9

    jojo9 New Member Member

    3,936
    656
    0
    ร้อนปกตินะ อิอิ....
    ดูที่เกจเครื่องประกอบนะคร๊าบ ดีสุด...
    เพราะว่า sensor ถ้าเราวัดที่น้ำไหลออกจากเครื่องมันต้องร้อนกว่าตอนเข้าเครื่องอยู่แล้ว
    ดังนั้น 100 คงปกตินะคร๊าบ ถ้าวัดจากตำแหน่งที่ออกจากเครื่อง แต่ถ้าวัดก่อนเข้าเครื่องอะ 100 มีปัญหาแน่....
    เคยความร้อนขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เอง เนื่องจาก relay ผัดลมเสีย เมื่อดูความร้อนที่เกจที่วัดน้ำที่ไหลออกจากเครื่องเกิน 100 แต่เกจเครื่องตรงไมล์ยังนิ่งอยู่
    เมื่อ
    เกจที่วัดน้ำที่ไหลออกจากเครื่องร้อน 110-120-130 เกจความร้อนที่ไมล์ก็เกินครึ่ง จากนั้นก็พุ่งสูงสุดเร็วมากกกก
    ดังนั้นถ้าความร้อนที่เกจตรงตำแหน่งน้ำออกจากเครื่องถ้าไม่เกิน 110 คงปกตินะ เพราะมันก็เท่านี้มาตั้งนานแล้วอ่ะ เวลากดแช่ยาวๆ
    เดาเองมั่วเอง สังเกตุเอง อาจจะผิดก็ได้นะ 5555....
     
  8. Crony_A

    Crony_A New Member Member

    4,017
    12
    0
    ขับช้าๆ สิครับ ความร้อนจะได้ไม่ขึ้น
     
  9. Pee

    Pee New Member Member

    25
    1
    0
    เอาแบบหลักวิชาดีกว่าคับ
    รถความร้อนขึ้น ตรวจสอบอย่างไร
    ในกรณีที่เข็มวัความร้อนขึ้นสูงกว่าปกติ ให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ดังนี้ :



    1.ดูระดับน้ำในหม้อน้ำและ หม้อพักน้ำว่าลดลงจากระดับปกติหรือไม่? ถ้าลดลง แสดงว่าน่า จะเกิดการรั่วซึมในระบบระบายความร้อนที่จุดใดจุดหนึ่ง



    2.เข็มความร้อนขึ้นเมื่อใด?



    2.1.ถ้าขึ้น เมื่อรถติดและลงเมื่อรถวิ่ง ส่วนใหญ่จะเกิดจากพัดลมไฟฟ้าไม่ทำงาน โดยมี สาเหตุจาก พัดลมไฟฟ้า,รีเลย์พัดลมไฟฟ้า,เทอร์โมสวิตช์ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้ง หมดเสีย



    2.2.ถ้าขึ้น เมื่อรถวิ่ง ส่วนใหญ่จะเกิดจากหม้อน้ำอุดตัน



    2.3.ถ้าขึ้นตลอด ทั้งรถติดและรถวิ่ง เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น น้ำในระบบไม่เพียงพอ เนื่อง จากรั่วซึม(check ได้โดยดูว่ามีคราบน้ำรั่วซึมบ้างรึป่าว) , เทอร์โมสตัทหรือวาวล์น้ำ ไม่ทำงานทำให้ไม่มีน้ำไปหล่อเย็นเครื่อง (check เบื้องต้นโดย ลองแตะที่ท่อยางน้ำ ที่ต่อจากเครื่องมาที่ด้านบน เทียบกับท่อยางที่ต่อด้านล่างหม้อน้ำ ถ้าท่อยางด้านล่าง เย็นกว่าท่อยางด้านบนมาก แสดงว่าวาวล์น้ำผิดปกติ) , ปั้มน้ำเสียทำให้น้ำไปวนหล่อ เย็นเครื่องไม่พอ



    2.4.เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวไม่ขึ้น และก็check อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทุกอย่างแล้วก็ปกติ ก็อาจเป็น ไปได้ว่าเกจ์วัดแสดงค่าผิดเพี้ยนไป



    วิธีตรวจสอบว่าเกจ์วัดความร้อนผิดปกติหรือไม่ :

    ระบบมาตรวัดความร้อนเครื่องยนต์ จะประกอบด้วย



    1.ส่วนแสดงผล(เข็มแสดงอุณหภูมิที่หน้าปัดเรือนไมล์) เป็น moving coil ที่ทำงานโดยรับ แรงดันไฟฟ้า จาก ECT gauge sending unit มาแปลงแสดงเป็นระดับค่าอุณหภูมิโดย เข็มวัดขึ้นลงตาม scale (check เบื้องต้นโดย :ปิด switch กุญแจมาที่ OFF ,ถอด

    ขั้ว ECT gauge sending unit ออก , ต่อขั้วของสาย ECT gauge sending unit ลง ground กับตัวรถ , บิด switch กุญแจไปที่ on และดูว่าถ้าเข็มวัดความร้อนขึ้น ก็แสดงว่า ปกติ

    ข้อควรระวัง ! ต้อง ปิดswitch กุญแจมาที่ off ก่อนที่เข็มจะขึ้นไปถึงระดับสูงสุดของ scale



    2.ส่วนที่วัดอุณหภูมิ (ECT gauge sending unit = engine coolant temperature gauge sending unit) เป็นตัวต้านทานปรับค่าได้ตามอุณหภูมิ ( variable resistor) โดยค่าความ ต้านทานปรับแปรผันกับอุณหภูมิ ความต้านทานจะมากที่อุณหภูมิต่ำ และค่าความต้านทาน จะน้อยลงทเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น (check เบื้องต้นโดย : ถอดขั้ว ECT gauge sending unit ออก , ใช้ Ohm meter มาวัดที่ตัว ECT gauge sending unit โดยขั้ว + ของ ohm meterต่อที่ขั้วของตัว ECT gauge sending unit และขั้ว - ของ ohm meter ต่อกับ

    เครื่อง (ground) , ดูค่าที่วัดได้ , ติดเครื่องยนต์เดินเบาจนกว่าพัดลมไฟฟ้าจะทำงาน (วาวล์ น้ำเปิด) , ดูค่าที่วัดได้อีกครั้ง , ถ้าค่าที่ วัดได้ตอนติดเครื่องแตกต่างจากตอนไม่ติดเครื่องตามที่ spec ระบุไว้แสดงว่า ECT gauge sending unit ปกติ แต่ถ้าค่าที่วัดได้แตกต่างกันไม่ได้ตาม spec ที่ระบุไว้แสดงว่า ผิดปกติ (เปลี่ยนตัวใหม่)



    หมายเหตุ

    1.ตำแหน่งของ ECT gauge sending unit จะอยู่ที่เครื่องบริเวณด้านล่างของช่องน้ำออก จากเครื่องไปยังหม้อน้ำ(ตรงที่ต่อท่อยางตัวบน ไปหม้อน้ำ)

    2.บริเวณเดียวกันนี้ จะมี ECT sensor อยู่อีกตัว ข้อสังเกตคือ ECT gauge sending unit จะมีสายไปต่ออยู่เส้นเดียว ขณะที่ ECT sensor จะมีสายไฟต่ออยู่ 2 เส้นตัว

    3.ตัว ECT gauge sending unit จะอยู่ถัด ECT sensor เข้าไปทางด้านท้ายรถ

    4.ค่าความต้านทานของ ECT gauge sending unit ตามที่ระบุใน manual

    4.1.ที่อุณหภูมิ 56 องศาC = 142 ohm

    4.2.ที่อุณหภูมิ 85-100 องศาC = 49-32 ohm



    วีธีตรวจสอบว่าฝาสูบโก่งหรือปะเก็นฝาสูบแตก ด้วยตัวเอง เบื้องต้น:

    1.เปิดฝาหม้อน้ำและดูว่ามีคราบน้ำมันปนเปื้อนอยู่กับน้ำในหม้อน ้ำหรือไม่?

    2.ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง และดูว่ามีน้ำปนเปื้อนกับน้ำมันเครื่องหรือไม่?

    3.เปิดฝาหม้อน้ำไว้ แล้วสตาร์ตรถ และดูว่า ในจังหวะสตาร์ตรถ น้ำในหม้อน้ำกระฉอกขึ้นมารึ ไม่?



    :-ถ้าตรวจสอบทั้ง 3 ข้อแล้วปรากฎว่าคำตอบเป็น ใช่ ทั้งหมด ก็สันนิฐานเบื้องต้นได้ว่าฝา สูบน่าจะโก่งหรือประเก็นฝาสูบแตก แก้ไขโดยเปิดฝาสูบมาทำการตรวจสอบทั้งที่ฝาสูบ และปะเก็นโดยละเอียดอีกคั้งโดยช ่างผู้ชำนาญ



    :-ถ้าตรวจสอบทั้ง 3 ข้อแล้วปรากฎว่าคำตอบเป็น ไม่ใช่ ก็สันนิษฐานได้ว่าฝาสูบไม่น่าจะ

    โก่งหรือประเก็นฝาสูบไม่น่าจะแตก



    หมายเหตุ

    1.ฝาสูบโดยส่วนใหญ่จะไม่โก่งกันง่ายๆ

    2.ฝาสูบจะโก่งก็ต่อเมื่อ รถเกิดความร้อนขึ้นสูงเป็นเวลานานๆ จนเครื่องดับไปเอง หรือ เติม น้ำลงในหม้อน้ำขณะที่เครื่องยังเย็นตัวไม่พอ
     
  10. abadahey

    abadahey Active Member Moderator

    2,753
    16
    38
    ไปรถ เพื่อน เลยพี่หนุ่ม คริคริ
     
  11. p251007

    p251007 New Member Member

    987
    14
    0
    SR20DET เครื่องแรงไปมั๊งครับ เปลี่ยนกลับเป็น GA ดีไหมครับ ฟรีค่าแรงครับ
     
  12. lumnamshe

    lumnamshe Member Member

    671
    5
    18
    ถ้าหลักการวิชาการก็ตาม คุณ Pee ไปครับ

    แต่ขอเสริมแบบบ้านๆที่ผมเองไว้ใช้สังเกตุเพื่อ Safe รถคัวเองนะครับ

    อาศัยหลักเย็นหรือร้อนขึ้นกับ อากาศ น้ำ น้ำมันเครื่อง และลักษณะการขับขี่
    หากมีเกจ์วัดพวก _Oil Press และ _Water Press ก็จะง่ายว่าปั๊มทั้งคู่ยังทำงานดีอยู่หรือไม่

    ง่ายที่สุดดูระบบน้ำก่อนครับ เหมือนว่าน้ำมีผลมากต่อการระบายความร้อนทั้งระบบ
    + โดยดูว่าระบบน้ำไหลดีปกติหรือไม่หากไม่มีก็ลองถอดวาล์วน้ำวิ่งเทียบดูครับ
    +โดยตรวจว่าตรงไหนอุดตันหรือไม่ อาจต้องถอดหม้อน้ำมาล้าง
    +ดูปั๊มน้ำว่าใบพัดยังเหลือครบหรือไม่

    ดูอากาศ
    +พัดลมยังทำงาน 2 speed และเมื่อ Turbo เริ่มร้อนเผาตูดพัดลมร้อนสะสมไปเรื่อยๆ พัดลมตัวนี้ยังทำงานอยู่หรือไม่
    +อะไรขวาง บัง ทางลมก็เอาออก

    ดูน้ำมันเครื่อง
    +หาตัวที่ีฟิล์มน้ำมันแข็งแรง ระบายความร้อนได้ดี
    +ปั๊มน้ำมันเครื่องต้องปกติดี ไม่มีเกจ์ก็ต้องถอดมาชมหละครับ

    ก็ว่าไปครับ
    เคยเป็นวิ่งกลางวัน ขับแตะ160 ยาวๆ รอบ 4 พันกว่า DEFI Oil Temp ก็ร้องเตือนตั้งไว้ที่ 122.5 ครับ
    แก้ไขตีหม้น้ำใหม่ ก็หายครับ แต่พออัดยาวๆ 170-180 รอบ4.5-5 พัน ก็มาแตะที่ 120 องศา ครับ
    แก้ไขเลยถอดวาล์วน้ำวิ่ง ดีขึ้น 5 องศาเมื่อซัด หากเรื่อยๆ 120-140 ก็ไม่เกิน105-115องศา

    แต่หากซัด 5 - 6-7 พันรอบ ปัจจุบันก็ขึ้นถึง 130 องศาเหมืนกัน แบบเล่นเกียร์หนักๆ 3-4-5 สำหรับกลางวัน/// กลางคืนก็ 122.5 องศาครับ



    และดูว่าเราฝังเซ็นเซอร์ของเกจ์วัดไว้ที่ใดด้วยครับ

    บางครั้งเราก็กังวลมกเิกินไปเรื่องอุณหภูมิน้ำและน้ำมัน
    ของผมเท่าที่ฝังมาจาก SR20DET น่าจะร้อนที่สุดเท่าที่ได้ยินมาแล้วนะครับ กรณีขับถนน
    ของคุณหนุ่ม OIL TEMP อยู่ที่ 105องศาถือว่า Ok นะครับ
     
  13. lumnamshe

    lumnamshe Member Member

    671
    5
    18
    มีหนึ่ง Link ที่อ่านแล้วอธิบายระบบระบายความร้อนได้ครบพร้อมภาพประกอบ ครับ

    กล่าวถึง
    ส่วนประกอบที่ช่วยในการระบายความร้อน
    - ปั๊มน้ำ
    - วาล์วน้ำ (เทอร์โมสตัท)
    - หม้อน้ำ
    - ฝาปิดหม้อน้ำ
    - ถังพักน้ำ
    - พัดลมระบายความร้อน
    - สายพาน
    - ท่อยางตัวล่าง
    - ท่อยางตัวบน

    ตามนี้ครับ
    V
    V
    V

    Cooling System of Cars

    - - - Updated - - -

    มีหนึ่ง Link ที่อ่านแล้วอธิบายระบบระบายความร้อนได้ครบพร้อมภาพประกอบ ครับ

    กล่าวถึง
    ส่วนประกอบที่ช่วยในการระบายความร้อน
    - ปั๊มน้ำ
    - วาล์วน้ำ (เทอร์โมสตัท)
    - หม้อน้ำ
    - ฝาปิดหม้อน้ำ
    - ถังพักน้ำ
    - พัดลมระบายความร้อน
    - สายพาน
    - ท่อยางตัวล่าง
    - ท่อยางตัวบน

    ตามนี้ครับ
    V
    V
    V

    http://www.aisleberley.com/Novel%20Overheat%20warning/coolingsystem.htm
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้