เมื่อประมาณกลางเดือนที่ผ่านมาผมได้ขายปรับบูสไฟฟ้า hks evc4 ให่แก่ลูกค้าท่านนึงไป โดยช่วงกลางเดือนลูกค้าได้โอนเงินมาให้ผมก่อนเต็มจำนวน และมารับสินค้าในวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยที่วันที่มารับสินค้า ผมได้ทดลองสินค้าสามารถใช้งานได้จริง เวลาอัดลมเข้าซิลินอยมีการสั่น ซึ่งถือว่าซิลินอยทำงานปกติ หน้าจอ ใช้งานได้ตามปกติ หลอดไม่ขาด กดโน่นกดนี่ ให้รู้ว่าไม่เสีย ใช้งานได้ ค่ำวันนี้ 13 ก.ย. ผมได้รับสายจากลูกค้าท่านนี้ ว่าสินค้ามีปัญหา ซิลินอยทำงานผิดปกติ อาการที่ว่า คือ โหมด low boost สามารถคุมบูสได้ตามปกติ 1.0 บาร์ แต่โหมด high boost คุมไว้ที่ 1.3 บาร์ แต่คุมไม่นิ่ง บูสสวิง โดยลูกค้า ต้องการความรับผิดชอบจากผม ซึ่งผมได้ปฏิเสธ โดยมีเหตุผลส่วนตัว คือ 1. ลูกค้า ซื้อสินค้าไปแล้วเกือบสองสัปดาห์ 2. สินค้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ผมไม่รู้ว่าลูกค้าไปต่อเสีย ต่อไม่ดี หรือสลับสินค้าหรือไม่ เพราะผมไม่ได้ทำตำหนิไว้ และ 3.ในวันที่มารับสินค้า ผมได้ลองสินค้า ว่าใช้งานได้ตามปกติ คุยไปคุยมา เริ่มเถึยง เกือบทะเลาะ โดยลูกค้าได้สอบถามผมว่า ผมดูซิลินอยเป็นหรือเปล่า ซิลินอยตัวที่ให้เค้าเป็นตัวที่มีปัญหา เค้าได้ถามเพื่อนหลายคน เวลาที่ลมเข้าซิลินอย ซิลินอยต้องเงียบและไม่สั่น ซึ่งผม งง มาก ผมขายปรับบูสไฟฟ้ามาเป็นสิบตัว การลองซิลินอยไม่เสียและทำงาน คือ ต้องสั่น ซึ่งเค้าก้อยืนยันว่าไม่สั่น ถามเพื่อนที่ขายอุปกรณ์ไฟฟ้าเหมือนกัน ก้อบอกว่า สั่น เอะ หรือผมเข้าใจผิดมาตลอด ลูกค้ายืนยันต้องการให้ผมรับผิดชอบ โดยบอกกับผมว่า เค้าซื้อของกับพ่อค้าท่านอื่นในเวปหลายคน ไม่ขอเอ่ยนาม เพราะผมเองก้อไม่รู้จัก เค้าบอกทุกคนรับคืนสินค้า หากใช้ไปแล้วสินค้ามีปัญหา และร้านค้าที่บางนาก้อรับคืนสินค้า ซึ่งผมก้อรับรู้และได้บอกเค้า ผมไม่เหมือนพ่อค้าคนอื่น เค้าบอกผมพูดแบบนี้ เค้าพูดไม่ออก ผมก้อพูดไม่ออกเหมือนกัน เพราะสินค้าได้ลองแล้ว ใช้งานได้ตามปกติ ผมยังถามเค้าเลย ในวันที่ลองสินค้าถ้าหากสินค้ามีปัญหา คุณจะเอาไปทำไม เค้าบอกว่า ผมใช้ลมเป่า ต่างจากเครื่อง ลมมันอ่อน จริงเหรอครับ วันนี้ที่ลอง ผมก้ออัดลมแรงจน waring มันดัง ข้องใจ เมื่อกี้ไปลองอัดใหม่ อัดได้เกือบ 2 บาร์ ลูกค้าบอกว่า เค้าไว้ใจเลยโอนเงินให้ก่อน เต็มจำนวน บอกผมรับประกันสินค้า ผมไม่เคยบอกเลย ว่า ผมรับประกันสินค้า ผมแต่ว่า ในวันที่มารับสินค้า หากลองแล้วสินค้ามีปัญหา ผมยินดีคืนเงินทั้งหมด แฟร์ๆ กัน ลูกค้าก้อโอเค โอนเงินมาให้ก่อน ผมบอกเค้าว่า สินค้าพวกไฟฟ้า ลองแล้วไม่เสีย คุณตกลงซื้อก้อจบกัน จะมีใครกล้ารับประกัน เค้าบอกไม่ใช่ ผมรับประกันสินค้า ผมขายของมือสองมาหลายปี ไม่เคยพูดคำว่ารับประกันออกจากปากผมเลย เพราะวันที่ผมเอาของมา ถามคำเดียว มีใครรับประกันผม คุณไม่ได้ซื้อของใหม่นะ ของใหม่พวกไฟฟ้า หากคุณไปต่อเสีย จะมีใครไปรับประกัน อย่างวันที่มารับสินค้า ลูกค้าขอดูปรับบูสไฟฟ้าตัวอื่น ทั้ง Profec A และ e-01 ให้ลูกค้าดู อย่าง Profec A ทำงานปกติ ซิลินอยสั่นและดัง แต่ e-01 หน้าจอภาพไม่ขึ้น เค้าพูดประมาณว่า ผมไปหลอกขายของเสียให้เค้า เหมือนอย่าง e-01 ผมเลยถามเค้าไปว่า อย่างวันนั้น e-01 ภาพไม่ขึ้น คุณจะรับสินค้ามั๊ย ที่คุณรับเพราะลองแล้วสินค้าไม่มีปัญหา คุยไปคุยมา ไม่รู้เรื่อง บอกแต่ว่า คืนนี้จะมาหาผม ผมก้อบอกมาก้อได้ แต่ผมคงไม่สามารถช่วยอะไรได้ จนถึงป่านนี้จะตีหนึ่งยังไม่มา ผมยังไม่รู้เรื่งนี้จะสรุปยังไง เพราะดูเหมือนคุยกันไม่รู้เรื่อง รูปแรก HKS EVC4 ต่อไฟ แต่ยังไม่ได้อัดลมเข้าไปในระบบ รูปสอง เปลี่ยนท่อลม ท่อติดซิลินอยรั่ว 555 เปลี่ยนเป็นท่อซิลิโคน อัดลมสุดกระบอกฉีดยา ได้เกือบสองบาร์ รูปสาม ดูใกล้ๆ อีกที ถ้าอัดลมแล้วค่าเพี้ยนจากเครื่อง ผมว่า ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าแพงๆ แล้วครับ อย่างตัวในรูป ปรับบูสร้องตั้งแต่ บูสเกิน 1 บาร์ แล้ว
ก็อยู่ที่คนสองคนครับ ตราบใดที่ไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นทางการ แต่ละคนจะอ้างยังไงก็ได้ครับ ผมขายแล้วไม่รับคืน - แต่คนอื่นขายผมแล้วรับคืน ผมรับประกันหนึ่งสัปดาห์ - แต่คนอื่นรับประกันตั้งหนึ่งเดือน ผมลองให้คุณดูแล้วว่าไม่เสีย - แต่คนอื่นบอกผมว่าเสีย ฝ่ายซื้อบางคนก็ไม่รู้ว่าต้องดูตัวสินค้ายังไงว่ามันใช้ได้หรือไม่ได้ ไอ้นั่นไม่แท้ ไอ้นี่ต้องไม่ถลอก พอคนอื่นบอกว่ามันไม่ดีใช้ไม่ได้ก็ใจเสียกลัวโดนหลอก เขาก็สู้เพื่อสิทธิของเขาแหละครับ ฝ่ายคนขายก็พิสูจน์เต็มที่ว่าของสมบูรณ์ ขายไปแล้วจะได้ไม่มีพันธะ จะได้ไม่ต้องกลัวลูกค้าสับของแล้วขอคืน หรือเอาไปทำพังเองแล้วมาหาทางเคลมของใหม่ ก็ต้องสู้เพื่อสิทธิของตัวเองเหมือนกันครับ ถ้าปรับบูสท์ก็ลองนัดกันไปเจอกับคนขายอื่นๆที่มีความรู้ จะเซียงกง จะร้านอะไหล่ คนขายของมือสอง ไล่ไปซัก 4-5 ร้าน 4-5 เจ้า ถามช่างถามคนขาย ขอความช่วยเหลือ(ขอดีๆนะครับ) ให้เขาดูให้ทดลองให้ว่ามันใช้ได้ไหม โอเคไหม เอาคำตอบมาซัก 4-5 คำตอบช่วยประกอบการพิจารณาว่าตกลงมันใช้ได้หรือไม่ได้ หรือจะไปที่ HKS เลยก็ลองดู ลองขอให้ช่างเขาดูให้เลยครับ(ถ้าเขายอมเช็คของให้) หาวิธีที่เป็นกลางมาตัดสินดูครับ จะได้ยอมรับได้ทั้งคู่ เอาตัวเราเป็นหลักเขาก็ไม่ยอม เอาเขาเป็นหลักเราก็คงไม่ยอมเหมือนกัน
