ได้อ่านเรื่องราวของทีมงานแล้วรู้สึกประทับใจเลยต้องขออนุญาติอ.ยศ ขอเอาเรื่องราวการทำรถมาเหล่าสู่ให้กันฟังน่ะ ขอบคุณล่วงหน้า คำบรรยายทั้งหมด เป็นของ อ.ยศ ขอยกมาทั้งหมดเลยแล้วกัน ---> กว่าจะถึงที่พักก็ 5 ทุ่มกว่าๆ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 ชัวโมง) ตอนเช้ามืดคนขับรถ slide มาส่งที่สนามโทรมาบอกว่า HONDA เช่าทั้งสนามคลอง 5 เพื่อเปิดตัวรถ Accord รุ่นใหม่เลยใช้สนามไม่ได้ 2 วัน ซวยอีกแล้วตรูงานน
ภูทำเกี่ยวกับนำเข้าอะไหล่เครื่องยนต์จากยี่ปุ่น ใครอยากได้อะไรสั่งจองได้เลยนะครับ แล้วยังทำร้านอาหารที่ชื่อ เฮือนปั้นหยา อีกด้วย
ร้านอยู่เยื้องๆวัดธรรมกายครับ อาหารอร่อยมากเลย อาหารราคาพิเศษยังไม่พอยังเลี้ยงพวกเราเกือบจะทุกมื้ อทั้งๆที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับการไปแข่งในครั้ งนี้เลย ขอให้ค้าขายเจริญรุ่งเรืองนะครับ
วันพฤหัสเราก็ได้ย้ายไปสิงสถิตย์อยู่ที่สนามบางกอกแด รก ใน pit ของ เอ้ เชียงใหม่กับ โอ็ค SY ครับ สองท่านนี้อีกเหมือนกันครับที่ให้ความช่วยเหลือพวกเร าเป็นอย่างดีอีกเช่นเคย
ไปถึงก็ลงมือเปลี่ยน CAM + Spring ในรถ FFTM และข่าวร้ายเรื่องแรกก็คือท่อนล่าง Magnus ที่สั่งไว้กว่า 2 เดือน ส่งมาไม่ทัน ก็เลยปรึกษากับนก ตกลงว่าจะใช้ท่อนล่างเดิมของ BUU แล้วเปลี่ยนเป็นลูก CP 86mm เปลี่ยนชาร์พเป็นของ Calico และเปลี่ยนประเก็นเป็น HKS 1.6mm โดยคำนวนออกมาได้ CR RATIO แค่ 8กว่าๆ ซึ่งไม่เหมาะกับเชื้อเพลิง Methanon เอาซะเลย แต่ทำไงได้ไม่มีทางเลือกแล้วครับ
เอารถโต้งไปจูนได้ 2 เกียร์เฟืองท้ายก็ระบิดออกมาก็เลยต้องรื้อเกียร์ออกม าเพื่อเช็คอัตราทด เพราะเข้าใจว่าน่าจะใส่เฟืองผิดมาทำให้มันฝืนกันเองจ นแตกออกมา
วันเสาร์มีแข่ง KING OF DIESEL ก็เลยเอา TRITON ไปแข่งกับเขาตอนแรกจะลงรุ่น Commonrail แต่มีปัญหาเรื่องยาง (ตอนที่โทรไปสอบถามก็ว่าเคลียร์แล้วว่ายาง DRAG RADIAL ลงได้หมดแต่พอจะแข่งจริงๆ เขาไม่ให้ลง ) ก็เลยต้องไปลง DIESEL OPEN แทน ลงไปแข่งกับรถที่ใช้ NOS น้ำหนักไม่เกี่ยง (รถเราน้ำหนัก 1,6XX กก) ยางอะไรก็ได้ ตอนแรกบอกว่าวิ่งได้ทั้งหมด 3 RUN ก็เลยคุยกันไว้ว่า RUN แรกจะเอาแบบเดิมๆลงก่อน คือยาง DRAG RADIAL ของ HOOSIER รอบที่สองจะ BURN หนักๆหน่อย รอบที่สามจะเปลี่ยนเป็นยาง DRAG SLICK มันซะเลย อะไรจะขาดจะแตกช่างแม่งมัน วิ่ง RUN แรกได้เวลา 60ft = 1.998 201m = 8.815 402m = [email protected]/HR เรื่องเวลาสำหรับรอบแรกได้ตามเป้าแล้วเพราะอยากเห็นเ ลข 13 ก่อนเป็นอันดับแรกสำหรับรถ Commonrail ที่ยังไม่ได้เปิดฝาสูบ แต่พอเข้าไปวิ่ง RUN ที่สองกรรมการหน้าเส้นสตาร์จบอกไม่ให้วิ่งเฉยเลย ด้วยเหตุผลว่าเราสมัครช้าเลยให้วิ่งรอบเดียวประมาณนั ้น ก็เลยเซ็งกันเป็นแถบ โต้งบอกถ้าได้เบรินส์เยอะๆเวลาน่าจะลงมาอีก 0.2 ได้ แต่ไม่เป็นไรแค่นี้เราก็ได้ตำแหน่งมาอย่างไม่คาดคิดก ับที่ 5 DIESEL OPEN ครับ
FFTM พอเปลี่ยน แคม,สปริง, เสร็จ ก็เจอปัญหาเรื่องครัชท์ที่สั่งไปมาไม่ทัน ตอนแรกเขาก็เลยหาครัชท์สำรองให้แข่งไปก่อน แต่พอได้มาดูแล้วไม่รอดแน่ๆ ก็เลยต้องไปหาซื้อ OS TWIN PLATE ที่คนขายบอกว่าเปลี่ยนชุด Overhall มาให้ใหม่ เอามาตอนแรกก็ดูๆ แผ่นทองแดงใหม่จริงๆแต่แผ่นกลางนี่มันทะแม่งๆ ชอบกลเหมือนเอาไปปาดหน้ามาแล้ว แต่ทำไงได้จะแข่งอยู่แล้วก็เลยต้องเอา พอเปลี่ยนเสร็จก็เอาไปวิ่งจูนด้วยยาง Radial ธรรมดาๆ ปรับนู่นปรับนี่กันพักใหญ่ๆ Boots ไปประมาณ 2.2bar จับเวลาโดยใช้ datalog ของ Motec ดูได้ประมาณ 10.4sec คาดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นยาง Soft น่าจะลงกว่านี้ได้อีกเยอะทีเดียว แต่ดันเกิดปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องขึ้นหัวลูกสูบ ทำให้รถสะดุดเป็นบางครั้งก็เลยรื้อเครื่องออกมาเช็คก ันดู
OHURA Tuner อิมพอร์ตจากญี่ปุ่นก็มาช่วยพวกเราดูด้วย (เป็นคนที่มีน้ำใจมากจริงๆเลยครับคอยช่วยเหลือพวกเรา มาโดยตลอด ขอบคุณมากครับ) ถอดลูกสูบเช็คเคลียร์แลนซ์ดูก็ปกติก็เลยลองรื้อฝาสูบ ดูก็เจอแล้วครับตัวปัญหาก็คือยางหมวกวาล์วมันโดน Retainer กระแทกจนขาดก็เลยต้องหาสปริงมาเปลี่ยนเข้าไปใหม่
กลับมาที่ BUU หลังจาก RUNIN เสร็จก็เอาไปจูนในสนาม เริ่มต้นที่ 1.5Bar ไล่ไปเรื่อยๆจนถึง 2.4 bar เอา datalog มาดู Methanon มันแน่จริง อุณหภูมิ ID ล่อเข้าไปตั้ง 156 c แต่อุณหภูมิเครื่องยนต์ ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 60 c เท่านั้นเอง เอารถกลับเข้า pit เช็คดูหม้อน้ำดันโดนหินกระเด็นใส่รั่วซะอีก พี่ใหม่ P&C GARAGE ก็เลยช่วยเขียนแผนที่ร้านซ่อมหม้อน้ำให้ (พี่ใหม่นี่เราเจอกันทุกวันเลยเป็นพี่ชายที่ใจดีคอยช ่วยเหลือพวกเรามากๆๆๆๆอีกคนนึงครับ แถมยังให้ยืมของเอาไปใช้ก่อนอีกด้วย
แล้วก็มาถึงวันศุกร์ก่อนวัน Qualify 1 วัน ก็เอา BUU ลงวิ่งในสนามเพราะวันนี้ค่าเช่าสนาม+นาฬิกาจะถูกเป็น พิเศษแค่ 2,500 บาท (ปกติคิด 3,500 ค่าใช้สนามอีก 1,000 บาท รอบแรกโต้งออก 7500 rpm ออกตัวรถห้อยไปพอสมควร เข้าเส้นเอา datalog มาเปิดตั้งแต่ปล่อยครัชท์จนถึงเข้าเส้นได้เวลา 9.2x Sec งานนี้มีเฮแน่เลย เพราะยังไม่ได้เปิด Missfire ให้มี Boots มารอตอนออกตัว ถ้าหักตรงที่รถห้อยออกประมาณ 1วิ หักออกซักครึ่งนึงยังไงๆ ก็มี 8 sec ปลายๆ ตุนในกระเป๋าอยู่แล้ว พอรถเข้า PIT มาก็เลยเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เป็นน้ำมันเครื่องยี่ห้อดัง กระป๋องเหล็กที่พวกเราไม่เคยใช้มาก่อนแต่คนขายบอกว่า ดี ไอ้เราก็พลาดเองที่เปลี่ยนมันเข้าไป โต้งเอา BUU ไปเข้าเส้นสตาร์จ ล็อครอบออกตัว ปล่อยครัชท์ออก รถเคลื่อนตัวออกไปได้ไม่เกิน 1 เมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังปังพร้อมชิ้นส่วนลูกสูบที่กระเด ็นออกมาจากตัวรถ
รื้อเครื่องออกมาดู ชาร์พก้านสูบ 2 เกิดล็อคอย่างรุนแรงจนดึงลูกสูบติดกับกระบอกสูบทำให้ ก้านสูบขาดแทงออกมานอกเสื้อสูบ ตอนนั้นเอ้เชียงใหม่มาพอดี พอรู้ว่าเราใส่น้ำมันเครื่องยี่ห้อ ... นี้เข้าไป เอ้บอกว่าไม่มีใครกล้าใช้ถ้ามาทันไม่ให้ใช้แน่ๆ เราก็เลยโทรไปโวยวายกับคนขาย คนขายบอกประมาณว่าไม่ใช่น้ำมันเครื่องหรอก พอดีตอนนั้นรถ S15 ก็เปลี่ยนใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้อ ... นี้พอดี ใส่เสร็จเอกเอารถไปวิ่งลองดู 1 รอบ พอเห็น BUU เป็นอย่างนี้พี่หน่อยก็เลยถ่ายน้ำมันเครื่องออกมาดู เห็นเศษชาร์พลอยระยิบระยับในน้ำมันเครื่องเต็มไปหมด (ก่อนจะใส่น้ำมันเครื่องตัวนี้เราได้ถ่ายน้ำมันเครื่ องตัวเก่าออกก่อนและดูแล้วว่าไม่มีเศษชาร์พออกมาอย่า งแน่นอน) ก็เลยเกิดการท้ากันเกิดขึ้นว่าเราจะถ่ายน้ำมันเครื่อ งของเดิมออกให้หมดแล้วเอาน้ำมันเครื่องยี่ห้อเดิมใส่ เข้าไปแล้วจะให้เอกเอาไปซัด ถ้ามันรอดแสดงว่าไม่ใช่เป็นที่น้ำมันเครื่องยี่ห้อ ... แต่ถ้าไม่รอด คนท้าต้องรับผิดชอบในเครื่องยนต์ให้เราด้วย พอเปลี่ยนเสร็จให้เอกไปซัด 2 รอบ เรียบร้อยครับ รื้อเครื่องออกมาดูเป็นอย่างที่เห็น
แล้วก็รอครับ ว่าคนที่พูดจะรับผิดชอบจริงหรือเปล่า ตอนที่รอก็เลยโทรบอกนก (ตอนนั้นนกยังอยู่ที่เวียดนามอยู่เลย) ว่าจะทำยังไงดี ด้วยความที่เป็นนักสู้ของนก บอกให้หาท่อนล่างตัวใหม่เลย ตอนแรกหาให้ของยี่ห้อ ... มีลูก,ก้าน,ข้อเหวี่ยง พร้อมราคาเบาๆ 135,000 บาท นกสั่งลุยเต็มที่ เราก็วิ่งไปหาแต่ดูสภาพแล้วไม่น่ารอดเพราะไส้ในมันดู ไม่น่าจะทนซักเท่าไหร่เราก็เลยไม่เอา โทรหาคนอื่นๆ ก็พยายามช่วยเราเต็มที่ช่วยหาของมาให้ (ผิดกับคนที่ท้าเราไว้ยังไม่เห็นโผ่ลออกมาดู หรือพยายามช่วยอะไรเราซักอย่างเลย) พอหมดทางเลือก ก็เลยต้องบอกข่าวร้ายนก ว่าต้องเอาเครื่องของ FFTM มาเปลี่ยนให้ BUU แล้วล่ะ ยกเครื่อง FFTM ออกมา ครัชท์ที่เพิ่งเปลี่ยนเข้าไปใหม่ก็เกิดการแตกอย่างที ่เห็น พอตอนหัวค่ำตัวแทนจำหน่ายของน้ำมันเครื่องยี่ห้อ ... ก็มา บอกว่าจะถ่ายรูปส่งไปให้ผู้ผลิตดู ผมเลยบอกว่า เอางี้ไหมจะได้รู้ไปเลยว่าเป็นเพราะเราหรือว่าน้ำมัน เครื่อง ผมจะรื้อเครื่องของ FFTM ที่กำลังจะเอามาใส่ให้ BUU ออกมาวัดเคลียร์แลนซ์ ให้ดู แล้วจะประกอบเอาขึ้น BUU ไป ผมจะเอาน้ำมันเครื่องยี่ห้อ ... นี้ใส่แล้วเอาออกไปวิ่ง ถ้ามันรอดแสดงว่าน้ำมันเครื่องยี่ห้อ ... นี้ดีใช้ได้ แต่ถ้าไม่รอดจะรับผิดชอบต่อค่าเครื่องยนต์กับค่าเสีย โอกาสของผมเท่าไหร่ ผมบอกไปสองรอบ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมา
ทีนี้ก็เกิดการชลมุนยกเครื่องกันละครับงานนี้ เอาเครื่อง FFTM ไปใส่ให้ BUU แล้วเอาเครื่องของโต้ง ยกไปใส่ FFTM พรุ่งนี้จะ Qualify แล้วยังไงก็ต้องทัน คืนนั้นพวกเราไม่ได้นอนเลยคับสว่างคาตา เช้ามาย้ายไปอยู่เต้นท์ที่ XO จัดไว้ให้ จะจูนก็ไม่ได้เลยวิ่งดู AF ได้แค่รอบเดียวในช่วงที่เขาให้ซ้อม เช็คกำลังอัดดูสูบ 1,3,4 มีอยู่ 170 (CR RATIO ต่ำแค่ 8.5 เอง ไม่เหมาะสำหรับเครื่อง Methanon เอาซะเลย) สูบ 2 มีแค่ 110 เอง (ตรงนี้เป็นเพราะวาล์ว ID มันคด ตอนที่เครื่องระเบิดแล้วเศษลูกสูบกระเด็นมาโดน) ก็เลยกะให้ผ่าน Qualify เวลา 10.0 sec โดยวิ่งเพียงรอบเดียว เราจะได้แก้ไขอะไรได้ทันก่อนวันแข่ง
ก็เลย Qualify เป็นรายแรกๆ โต้งออกตัวเหมือนเดิม รถออกอาการห้อยนิดหน่อย ไม่มีการเบรินส์ยาง ไม่มี NOS กับเครื่องยนต์ที่ทำงาน 3สูบกว่าๆ เวลาที่ออกมาได้ 60ft = 1.561 1000ft = 7.768 1/4mile = [email protected]/HR เวลาที่ได้เข้ามาเป็นอันดับ1ในรุ่น Pro4modify ก็เลยปรึกษากันว่าเอาแค่นี้ก่อนละกันเพราะสภาพแต่ละค นก็ไม่ไหวกันแล้วทำรถไปหลับคาใต้ท้องรถกันเลย
เช้าวันแข่งพี่วีก็มาดูด้วยเห็นรถไม่เงา พี่วีกับโน้ตก็เลยช่วยกันขัดสีใหญ่เลย วันนี้วิ่ง 3 RUN รอบแรกกะเอาเวลามาตุนไว้เหมือนเมื่อวานซะก่อนคือ 9.25 RUNที่ 2 จะเพิ่ม Boots เป็น 3.0bar พร้อมออกรอบให้สูงขึ้น RUN สุดท้ายกะลดรอบออกตัวลงเหลือ 6,500 รอบปล่อยครัชท์แล้วยิง NOS สวน แล้วค่อยไปยิงอีกทีที่เกียร์ 4 สตาร์จเครื่องตรวจสอบความเรียบร้อย กล่อง Motec ฟ้อง AirTEMP Sensor เสีย พอแกะออกมาดูหัว NTC ในตัว Sensor หายไปแล้ว เปิด DATA LOG ดูมันเสียตั้งแต่เข้าเส้นวัน Qualify ก็เลยปลดมันออกจากระบบ (ทำไม Sensor มันใจเสาะจัง AirTEMP แค่ 160c ทำเป็นทนไม่ได้เนอะ ) ทุกอย่างก็ทำงานปกติ รวมทั้ง Switch Flat Shift ที่อยู่คันเกียร์ จากนั้นก็เก็บรถรอแข่งประมาณบ่าย 3 ครับ
ถึงเวลาลงสนามจริงแล้ว รถเข้ารอบมี 3 คัน คันแรกวิ่งไป 10 กว่าๆ คันที่ 2 9.4วินาที คันสุดท้ายถึงเวลาของ BUU โต้งล็อครอบออกตัวที่ 7,500 รอบ พอปล่อยครัชท์ปุ๊ปก็เห็นเศษอะไรก็ไม่รู้กระเด็นออกมา บริเวณเกียร์ฝาก หลังจากนั้นรถก็วิ่งไปด้วย 2 ล้อหน้า พร้อมเพลากลางที่กระดกขึ้นลง ถูแทร็คไปตลอดทาง เข้าเส้นไปด้วยเวลา 10.6sec Speed 255km/hr (เอาไปทำขับหน้าเลยดีไหมเนี่ย ) พอเข้าเส้นปุ๊ปเจ้าหน้าที่ให้จอดที่ปลายสนาม เราจะเข้าไปเข็นรถก็ไม่ให้เข้าไปเข็น ต้องใช้รถ Slide มาเอาไปที่เต็นท์ เราบอกให้ช่วยส่งที่บริเวณจุดสตาร์จเพราะอุปกรณ์ Service ของเราอยู่ที่ไหนหมดแล้ว แต่รถ Slide ก็ยืนยันว่าจะส่งแค่ที่เต็นท์ พอรถลงจาก Slide พวกเราก็ช่วยกันเข็น BUU แบบ DRAG 2 ผลัด ด้วยระยะทางกว่า 300 เมตร ทีม Service ก็รอประกอบเพลาเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์ฝาก + เพลากลาง ทั้งหมดไม่เกิน 10 นาที รถเสร็จเพียงแต่ยังไม่ได้เอาลงจากสามขาเท่านั้น กรรมการบอกว่าหมดเวลาไม่ทันวิ่งรอบ 2 ให้ไปวิ่งรอบ 3 เลย (จะรอตูแค่ 20 วิเองก็ไม่ได้) หลังจากนั้นแทรค B ที่ใช้งานมาทั้งวันก็ใช้ไม่ได้เพราะมีรถบึ้มที่ปลายเ ส้นก็เลยต้องเปลี่ยนมาใช้แทรค A ก็เลยบอกให้โต้งเบรินส์เอาท์นิดนึงเพราะแทรค A จะไม่หนึบเหมือนแทรค B ที่โดนใช้งานมาทั้งวัน โต้งเข้าแทรค A พร้อมเบรินส์เอาท์อย่างที่บอก พอรถออกตัวปุ๊ปเป็นอย่างที่คิดไว้เลยคือรถฟรีทิ้งทั้ ง 4 ล้อ พอสับ 2 เกียร์เลยยัดไม่เข้าโต้งพยายามสับอยู่ 2-3 รอบ พอสับ 3 ก็เหมือนเดิมอีกต้องยกคันเร่งถึงจะเข้าเกียร์ได้ เวลาเลยออกมาไม่ดีได้ 10.0 เราก็เลยได้ที่ 2 ส่วนที่ 1 ได้เวลาดีที่สุดประมาณ 9.3x sec ก็เลยเซ็งไปตามๆกัน จากนั้นก็ไปกินกินต่อที่ร้านเฮือนปั้นหยา โดยภูษิตรับหน้าที่เป็นเจ้ามืออีกตามเคย
ตื่นเช้ามาอีกวันนึง เราก็ช่วยกันย้ายเครื่อง BUU ลง FFTM เพราะนกไม่มีรถใช้แล้ว ย้ายกันกว่าจะเสร็จก็ประมาณ 3-4 ทุ่ม เครื่องที่อยู่ใน FFTM เลยเป็นเครื่องรถบ้านที่เคยวิ่งได้ 9.2sec แค่นั้นเอง
นอนพักผ่อนกันอีกวันนึงเช้ามาก็ขับรถกลับบ้าน มาแข่ง Souped Up ครั้งนี้เหนื่อยโครตๆ ตั้งแต่วันมายันจนก่อนวันกลับ แต่ก็ทำให้เรารู้ว่าจะให้ Buu วิ่ง 8 วินั้นไม่ใช่เรื่องยาก เราได้เห็นความมีน้ำใจของใครหลายๆคนทั้งๆที่เขาไม่มี ส่วนได้ส่วนเสียในการแข่งครั้งนี้เลย ทั้งภูษิตเจ้าของร้านอาหารเฮือนปั้นหยา ที่บริการอาหารให้พวกเราเป็นสิบมื้อ พี่ใหม่ P&C GARAGE ที่ออกปากให้เรายืมของราคาหลายหมื่นแบบไม่ต้องจ่ายตั งค์ และช่วยเหลือเราทุกๆอย่าง OHURA tuner ชาวญี่ปุ่นที่คอยช่วยแนะนำในสิ่งต่างๆ เอ้เชียงใหม่,โอ็คอาร์ท SY , พี่กอล์ฟ SY ที่ให้เราใช้ PIT เหมือนเป็น PIT ของพวกเราเอง คิดดูรถเจ้าของ PIT ยังต้องจอด Service นอก Pit เลย และใครอีกหลายๆคนที่คอยเป็นกำลังใจให้พวกเรา ที่ขาดไม่ได้ก็คือ นกเจ้าของ BUU ที่ใจเกิน 100 สู้ไม่ถอยไม่มีคำบ่นซักคำให้เราได้ยินว่าทำไมรถวิ่งไ ม่ได้ โต้งคนขับระดับเทพตัวจริงที่สามารถบอกอาการรถทุกๆอย่ างได้ TEAM SERVICE ของ ECU=SHOP เองที่ขอบอกว่างานนี้เหนื่อยสุดๆทำงานให้งานนี้ออกมา ให้ดีที่สุด ส่วนคนที่แย่ก็มีแต่ไม่พูดถึงดีกว่า พอๆกับน้ำมันเครื่องยี่ห้อ .... เลย ปีหน้า Souped Up 2008 เจอกันใหม่ครับ
อ่านมาแล้ว อาจสงสัยว่าน้ำมันต้นเหตุ มันยี่ห้ออะไร ใบ้ให้น่ะ ภาษาอังกิด 3 ตัว มาจากเยอรมัน ลองทายดู เดียวมาเฉลย
