"โลตัส" เผยโฉม E23 Hybrid

การสนทนาใน 'Formula 1' เริ่มโดย News, 1 กุมภาพันธ์ 2015

< Previous Thread | Next Thread >
  1. News

    News Active Member Super Moderator

    1,005
    3
    38
    [​IMG]

    โลตัส เผยภาพรถแข่ง อี23 ไฮบริด ที่จะใช้ลงชิงชัย ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกฤดูกาลนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ของทีม โดยมีคิวเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน ปรีซีซั่นเทสต์ ครั้งแรก ศึกเอฟวัน 2015 ที่ เฆเรซ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้

    วิลเลียมส์ มาร์ตินี เรซซิ่ง เป็นทีมแรกที่เผยภาพรถแข่งเวอร์ชั่นใหม่ที่จะใช้ลงชิงชัย ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกในฤดูกาลนี้ ก่อนที่ ซาฮาร่า ฟอร์ซ อินเดีย เอฟวัน ทีม จะเป็นทีมแรกที่เปิดตัวรถแข่งพร้อมทั้งนักขับอย่างเป็นทางการ

    [​IMG]

    ล่าสุดเป็นคิวของ โลตัส เอฟวัน ทีม ที่เปิดเผยภาพรถแข่งเวอร์ชั่นใหม่ภายใต้รหัส อี23 ไฮบริด ผ่านทางเว็บไซต์ของทีม โดยรถแข่ง อี23 ยังคงใช้สีหลักเหมือนในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของจมูก และ ปีกหน้า

    รวมถึงขุมกำลังที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เมอร์เซเดส แทน เรโนลต์ ที่ใช้ลงทำการชิงชัยใน 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทว่าในฤดูกาลล่าสุดเครื่องยนต์ของเรโนลต์ค่อนข้างมีปัญหา หลังศึกเอฟวันเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ลงทำการชิงชัย

    [​IMG]

    แมทธิว คาร์เตอร์ ซีอีโอของ โลตัส เอฟวัน ทีม เผยว่า "อี23ไฮบริด เป็นยุคใหม่ของ โลตัส เอฟวัน ทีม มิใช่เพียงแค่การเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เมอร์เซเดส แต่ยังมีการพัฒนาตัวรถแข่งควบคู่กันไปด้วย"

    "เราค่อนข้างมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของรถแข่งและทีมงาน จะสามารถขับเคลื่อนให้ทีมก้าวเดินไปข้างหน้า หลังต้องผิดหวังกับการแข่งขันในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเราทำงานกันอย่างหนักเป็นเวลากว่า 12 เดือน โดยหวังที่ขึ้นไปอยู่ในแถวหน้าของศึกเอฟวัน" คาร์เตอร์ กล่าว

    [​IMG]

    ด้าน นิค เชสเตอร์ ผู้อำนวยการด้านเทคนิค กล่าวว่า "เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในฤดูกาลที่ผ่านมา และนำมาพัฒนารถแข่งเวอร์ชั่นใหม่ อย่างไรก็ดียังต้องคอยติดตามดูว่าเราจะทำได้ดีมากน้อยเพียงใด กับการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งเราคาดหวังว่าจะสามารถต่อกรกับคู่แข่งได้มากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา"

    ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก 2015 มีคิวลงทำการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล หรือ ปรีซีซั่นเทสต์ ครั้งแรก ระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ เฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน

    [​IMG]
    (ภาพ : lotusf1team.com)​

    ที่มา: http://www.motorsportlives.com
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้