รวบ'หทัย'นักแข่งรถ เป็นหน.แก๊งงัดตู้เซฟ [4 มี.ค. 52 - 14:45] ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (4 มี.ค.) พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4(ผกก.สส.บก.น.4) นำกำลังเข้าตรวจค้นอู่ซ่อมและตกแต่งรถแข่ง ภายในซอยพระรามเก้า 60 ของนายหทัย ไชยวัณณ์ นักแข่งรถชื่อดัง หลังจากสืบทราบว่า นายหทัย เป็นหัวหน้าแก๊งโจรกรรมตู้เซฟรายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างเข้าค้น นายหทัย ไหวตัวทัน วิ่งหนีตำรวจขึ้นรถแข่งคู่ชีพราคากว่า 10 ล้านบาท ซิ่งฝ่าวงล้อมตำรวจออกไปพร้อมกับแฟนสาว และใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจเพื่อเปิดทาง ขับขึ้นถนนมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าไปทาง จ.ชลบุรี ขณะที่ลูกน้องร่วมแก๊งต่างแยกย้ายกันหลบหนีพร้อมทั้งยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กำชับให้ตำรวจติดตามตัวนายหทัย มาดำเนินคดีให้ได้ ก่อนเข้าตรวจค้นภายในอู่ซ่อมรถของนายหทัย พบทรัพย์สินของกลางจำนวนมากมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งพบว่าทรัพย์สินเป็นของมหาเศรษฐีคนหนึ่งภายในหมู่บ้านธารารมณ์ ซอยรามคำแหง 9 เขตวังทองหลาง เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ปีที่แล้ว การบุกเข้าจับกุมแก๊งโจรกรรมตู้เซฟครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมลูกน้องคนสนิทของนายหทัย 2 คน คือ นายณัฐ ชาหอม และนายสุภัทร เนินวิเชียร ได้พร้อมของกลางรถยนต์ 3 คัน เงินสดกว่า 1 ล้านบาท และอาวุธปืนพร้อมกระสุนจำนวนมาก และระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 12 ลูก มาสอบสวน ทั้งคู่รับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายหทัย พร้อมด้วย นายกีรติ กุมพล และนายพีรวัฒน์ ตะวันธรงค์ ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านมหาเศรษฐี เพื่อนำ เงินไปซื้อรถแข่งและตกแต่งรถ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลตรวจค้นบ้านพักของนายณัฐ ที่หมู่บ้านระวิภา ซอยอุดมสุข 40 และอู่ซ่อนรถไม่มีชื่อ เลขที่ 15 ซอยพระรามเก้า 60 ของนายหทัย ได้ของกลางตู้เซฟ 2 ตู้ เงินสด ป้ายทะเบียนรถ สมุดบัญชีธนาคาร นาฬิกา พระเครื่อง อาวุธปืนพร้อมกระสุน และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ แต่ระหว่างการเข้าตรวจค้นที่อู่ซ่อมรถ นายหทัยและแฟนสาวได้ขับรถฝ่าวงล้อมตำรวจ พร้อมยิงปืนเข้าใส่ ก่อนหลบหนีไปได้ นายสุภัทรสารภาพว่า จะใช้วิธีขับรถตระเวนไปตามหมู่บ้านเศรษฐี เมื่อเจอบ้านเป้าหมายจะทำทีเข้าไปกดกริ่ง หากพบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน ก็จะบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินทันที แต่หากมีคนอยู่บ้าน ก็จะอ้างว่ามาผิดบ้าน โดยมีนายณัฐเป็นหัวหน้าแก๊ง ส่วนนายหทัยเป็นคนชี้เป้า ขณะที่ตนจะเป็นคนเปิดตู้เซฟเอาทรัพย์สินออกมา แต่ละครั้งจะได้ทรัพย์สินประมาณ 900,000 ถึงหลักล้านบาท เงินที่ได้มาจะนำไปแต่งรถ เที่ยวเตร่ และเล่นการพนันที่บ่อนปอยเปต ด้าน นายณัฐสารภาพว่า ก่อเหตุมาแล้วกว่า 20 ครั้ง เงินที่ได้มาจะนำไปซื้อทรัพย์สินเก็บไว้ และเล่นการพนัน เมื่อเงินหมดก็จะชวนกันออกตระเวนหาเงินใหม่ ล่าสุดได้ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินจากบ้านในหมู่บ้าน "นวธานี" ได้เงินไปประมาณ 12 ล้านบาท เบื้องต้นนายสุภัทรและนายณัฐ ถูกตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และจะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป โดยเฉพาะในรายของนายหทัย หากไม่ยอมมอบตัว และทำการต่อสู้ขัดขืนอีกเมื่อพบตัว ตำรวจก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีไป ขอให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่โดยดี หากหลังจากนี้ไปยังคิดต่อสู้เหมือนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป สำหรับนายหทัย ไชยวัณณ์ คว้าแชมป์ครั้งแรกในชีวิตกับการแข่งขันรถยนต์รายการโตโยต้าไฮลักซ์ไมตี้เอ็กซ์วันเมคเรซ เมื่อครั้งอายุได้ 15 ปี จากนั้น เคยได้รับรางวัลเจ้าดาราทองของบริษัทโลกความเร็ว รวมทั้งการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบและรางวัลการขับรถยนต์ทางวิบากอีกหลายรายการ
ด้าน พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สืบสวน บก.น.4 กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ร.ต.ท.ศิริ ศิริมี รอง สวป.สน.ประเวศ ช่วยราชการ กก.สืบสวน บก.น.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สืบสวน บก.น.4 กว่า 10 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 15 ซอยพระรามเก้า 60 แขวงและเขตสวนหลวง หลังสืบทราบว่า นายหทัย ไชยวัณณ์ พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นอู่ซ่อมรถส่วนตัวของนายหทัยเอง มีป้ายติดไว้หน้าบ้านว่า “ไม่ใช่อู่ซ่อมรถทั่วไป” และ “จนอย่ามา” นอกจากนี้ยังมีรถเก๋งแต่งซิ่งยี่ห้อต่างๆ จำนวนหลายคันอยู่ภายในอู่ ตัดมาจาก http://www.manager.co.th/Crime/ViewN...=9520000024917
