ขอตอบทีละเรื่องเลยน๊ะครับ เริ่มจาก เรื่องไฟส่องหน้าปัทม์ก่อน ใช่ครับ...พอเปิดไฟใหญ่ (Head lamp) ไฟดวงนี้จะติดด้วย รวมถึง ในกล่องเก็บของด้านหน้า ก็จะมี SW. สำหรับเปิดปิดไฟในกล่องเก็บของเช่นกัน โดยที่เมื่อเราเปิดไฟใหญ่แล้ว นั่นแสดงว่าไฟในกล่องเก็บของก็พร้อมที่จะทำงานด้วย เมื่อเราเปิดฝากล่องออก SW.จะทำงานทำให้ไฟในกล่องติดตามไฟใหญ่ไปด้วย ตามรูปข้างล่างเลยครับ(รูปที่ 3)
ใช่ครับ เป็นลำโพงที่ติดตั้งได้เลย ไม่ต้องเจาะแผงหลัง ลำโพงที่ประกาศขายอยู่ เป็นของผมเอง มีอยู่ 2 แบบคือ แบบ Full range หรือแบบลำโพงตัวเดียว หมายความว่าเป็นลำโพงที่ไม่ได้แยกเสียง สูง,กลาง,ต่ำ เสียงทุดเสียงจะออกมาจากลำโพงตัวเดียวกันตัวนี้ผลิตในญี่ปุ่นแท้ อีกแบบเรียกว่าลำโพง 3 ทาง คือจะมีลำโพงเสียงสูง,กลาง,ต่ำ อย่างละตัวรวมกันในตู้เดียวกัน ในกรณีที่มีลำโพงแค่ 2 ตัว ก็จะเรียกว่าลำโพง 2 ทาง ตามคุณลักษณะของมันตัวนี้ผลิตในเกาหลีครับ สำหรับราคานั้น ลำโพง Full range ผมเหมาเค้ามาแล้วเอามาแบ่งให้กับพรรคพวกไปหลายคู่แล้ว ตอนนี้เหลืออยู่เกือบ 10 คู่ (ไม่รู้ซื้อมาทำแห้วอะไร สงสัยอารมณ์หาของยากเลยหน้ามืดซื้อมา) ตอนผมซื้อมาราคาคู่ละ 700.- ตอนผมประกาศขาย ก็ขาย 700.- ไม่ได้เอากำไรแต่อย่างไร ถือว่าแบ่งๆให้คอเดียวกันใช้ ส่วนลำโพงแบบ 3 ทางผมได้มาแพงเหมือนกัน (เฉพาะตัวลำโพงคู่ละ 2,200.-) เนื่องจากไปเดินหาตามแหล่งขายเครื่องเสียงติดรถยนต์มาหลายที่ก็ไม่มีขาย จนมาได้จากร้านเดียวกัน แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ขอบยางของลำโพงมันเสื่อมสภาพ ต้องซ่อมใหม่ที่บ้านหม้อ(ค่าซ่อมคู่ละ 400.-) แต่หลังจากซ่อมแล้วก็ใช้งานได้ดีเป็นปรกติ ตัวนี้ผมไม่ได้เก็บไว้ถ้าอยากได้ต้องโทรถามให้ว่ายังมีหรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะมีครับ ต้องขออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ได้มีเจตนาเอาของมาขายที่หน้านี้ แต่เห็นถามมาเลยเอามาแบ่งให้คอเดียวกันครับ
ขอบคุณครับ... ขอเพิ่มเติมอีกนิดสำหรับเรื่องลำโพง ลำโพงที่ผมซื้อมาทั้งคู่นั้น คุณภาพเสียง ไม่ได้ดีไปกว่าลำโพง 6x9 ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดเท่าไรนัก นั่นหมายถึง 6x9 บางคู่ บางยี่ห้อน๊ะครับ (แต่อนุมานได้ว่าส่วนใหญ่ ที่ระดับราคาประมาณ 1,500.- ขึ้นไปเสียงจะดีกว่า แต่ต้องมีเงื่อนไขในเรื่องของการติดตั้งและรายละเอียดอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง) ดังนั้น ถ้าอยากได้คุณภาพเสียงที่ดี ผมแนะนำให้เลือกซื้อ 6x9 ดีกว่า เพราะปริมาตรของห้องเก็บของที่กระโปรงหลังมีมากพอที่จะสะท้อนเสียงต่ำของเบสได้ดีกว่าตู้เล็กๆที่มีปริมาตรของพื้นที่น้อย ส่วนลำโพงทั้งคู่ของผม มันเหมาะสับหรับติดเอาเท่ห์ตามยุคของรถมากกว่าคุณภาพของเสียงที่ได้ออกมา แต่ถ้าจะเทียบกันระหว่างของผมทั้งสองตัว ผมก็รู้สึกว่าทั้งราคาสูงกับราคาต่ำ คุณภาพเสียงไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ คือห่วยพอๆกันครับ
เรื่องอะไหล่นั้นถ้าสังเกตุดูให้ดีจะเห็นได้ว่า ครึ่งของส่วนหน้ารถทั้งหมดจะเหมือนกัน ดังนั้นจึงใช้แทนกันได้หมดทั้ง 81 และ 94 ที่เหลือดูเพียงแต่ว่าเป็นการ Minor change รอบที่เท่าไหร่ เพราะการ Minor change แต่ละรอบจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่อะไหล่ตัวถังบางตัวก็ใช้แทนกันได้ โดยเฉพาะการ Minor change ครั้งที่ 1 กับ 2 หน้ากระจังจะไม่เหมือนกัน แต่เป็น Block เดียวกัน ไม่เหมือนตัว Model change ที่หน้ากระจังและไฟเลี้ยวที่บังโคลนมีความแตกต่างกัน สำหรับเรื่องเครื่องยนต์ ผมเข้าใจว่ามีมาหลายรุ่นแต่เป็น Block เดียวกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกันไม่มาก ส่วน 94 ของผมนั้นเป็นเครื่องยนต์ขนาดความจุ 1,899 cc. ใช้รหัสเครื่อง 18R รายละเอียดจำไม่ได้ ไม่มีข้อมูลอยู่ในมือ ประกอบกับเรื่องเครื่องยนต์กลไก ผมไม่เก่งเอาเสียเลย คงต้องรบกวน "น้าเหลิม" มาตอบละครับว่าแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร หมายเหตุ Model change คือการเปลี่ยน จาก Model หนึ่งไปสู่อีก Model หนึ่ง เช่นจาก RT40 ไปเป็น RT60 ไปเป็น RT80 เป็นต้น (รูปที่ 1 เป็น Model change มาจาก RT60) Minor change คือการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดปลีกย่อยภายใน Model เดียวกันให้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย เพื่อการหวังผลทางด้านการตลาด (รูปที่ 2 เป็นการ Minor change ครั้งที่ 1 และรูปที่ 3 เป็นการ Minor change ครั้งที่ 2 ของอนุกรม RT80 ครับ)
ขอบคุณพี่ลูแปงมากเลยครับ เข้าใจเลยครับแต่สงสัยเลขตามหลัง RT มีความหมายอย่างไรครับ ตามปีที่ผลิดหรือเปล่าครับ
คิดว่าไม่น่าใช่นะครับ เพราะอย่างเช่น RT 80 ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในปี 80 แต่กำเนิดมาก่อนหน้านั้นอีกนานโข คิดว่าน่าจะเป็นการเรียกชื่อรุ่นไล่มาตามเจเนอเรชั่นมากกว่าครับ เพราะคงเริ่มจาก RT 40 (หรือมี RT 20 ก็ไม่รู้) และก็ไล่มาเรื่อย ๆ จนมาถึงรุ่นสุดท้ายที่ RT 130 แต่จะว่าไปแล้วก็อยากรู้นะว่าเค้านับจากอะไรกันแน่ วันหลังเราหาเอารูปรถตระกูล RT ตั้งแต่รุ่นแรกเรียงลำดับมาจนถึงรุ่นสุดท้ายเลยดีกว่า และก็ต่อด้วยตระกูล TT ด้วยเลย ว่ามันมีทั้งหมดกี่รุ่น กี่แบบ อิอิ
ครับ...ไม่ใช่ตามปีอย่างที่คุณกอล์ฟบอกมา แต่เค้านับตามรูปแบบของตัวถังมากกว่า ซึ่งผมเองในบางรุ่นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเรียกกันอย่างนั้น ซึ่งแตกต่างจาก Corolla ที่เค้าเรียกชื่อรุ่นตามรูปแบบที่เป็นอนุกรมเดียวกัน เช่น KE20 ก็มี 4 ประตู พอเป็น 2 ประตูเรียก KE25 หรือ KE30 มี 4 ประตู 2 ประตูเรียก KE35 แบบแวนเรียก KE36 เป็นต้น สำหรับรหัส KE นั้น ผมเข้าใจว่าน่าจะมาจากการเรียกของตระกูลเครื่องยนต์ เพราะในยุคแรกๆใน Corolla นั้นจะใช้เครื่องยนต์ตระกูล K ทั้งหมด เช่น 3K,4K พอมารุ่นใหม่ๆก็เรียกตามรหัสเครื่องยนต์อีกคือเครื่องยต์ตระกูล A ก็จะใช้รหัส AE เช่น AE100,101 (คือรุ่น 3 ห่วง) เครื่องยนต์ตระกูล A จะมีทั้งเครื่องขับหลังใช้ AE เช่นที่นิยมเอามาวางใน KE70 ก็คือเครื่อง 4AGE ฝาลายหรือฝาเรียบก็แล้วแต่จะเลือกกันไป ส่วนขับหน้าใช้รหัส AF ซึ่ง F ตัวหลังเป็นตัวย่อของคำว่า Front Engine ครับ ในส่วนของ Corona ในยุคแรกๆก็เรียกรหัสเครื่องยนต์เหมือนกันคือเครื่องยนต์ตระกูล R แต่ไอ้ตัว T นี่ซิไม่รู้มาจากคำว่าอะไร?นึกไม่ออก และในส่วนของตัวเลขต่อท้ายก็เป็นเรื่องที่ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้แตกออกไปเป็นแบบนั้น เช่นรุ่น RT40 (ตามรูป) จะเป็นแบบ Sedan 4 ประตู พอเป็นแบบ Coupe 2 ประตู กลับเรียกว่า RT55 เหมือนรุ่นของผม ถ้าเป็น 4 ประตู Sedan จะเรียกว่า RT80,81 พอเป็น 2 ประตู ดันมาเป็น RT94 งงมั้นครับ?ผมเองยังงง ใครรู้ช่วนตอบที.....
มีน้องคนนึงบอกว่าในมหาวิทยาลัยเกษตรมีใช้อยู่ เพราะในยุคนั้น ตามสถานที่ราชการมักจะสั่งรถประเภทนี้มาใช้บ้างประปราย ผมเลยลองถามเพื่อนที่จบมาจากในนั้นหลายคน เพื่อนดันบอกว่าไม่เคยเห็น.....(หรือมันเห็นแต่ไม่รู้จักก็ไม่รู้เหมือนกัน) :cry:
ขออนุญาติ เหลา ด้วยคน...ด้วยเรื่องโค๊ดการเรียก บอดี้และเครื่องของ โตต้า รหัสของรุ่นรถต่างของโตต้า จะเริ่มด้วยโค๊ดของเครื่องยนต์แล้วตามด้วยโค๊ตของซีรี่รุ่น คร่าวๆดังนี้นะครับ ซีรี่รุ่นก่อนแล้วกัน.. A = celica / carina E = corolla H = hiace N = hilux S = crown T = corona / celica ปี85ขึ้นไป /carina ปี82ขึ้นไป /mark II 1968-71 V = camry X = cressida ส่วนเครื่องยนต์ก็จะมีเยอะแยะ ตั้งแต่ P/R/K/T/A/S/E/M/L.....(อีกเยอะแยะ)... เมื่อรวมเป็นรุ่นรถ ก็จะเรียก เครื่องยนต์+ซีรี่รุ่น.....เช่น โคโรน่า ที่ใช้เครื่อง R ก้จะเป็น RT โคโรน่า ที่ใช้เครื่อง T ก็จะเป็น TT โคโรน่า ที่ใช้เครื่อง S ก็จะเป็น ST โคโรล่า ที่ใช้เครื่อง K ก็จะเป็น KE โคโรล่า ที่ใช้เครื่อง A ก็จะเป็น AE โคโรล่า ที่ใช้เครื่อง T ก็จะเป็น TE ไฮลักซ์ ที่ใช้เครื่อง R ก็จะเป็น RN ไฮลักซ์ ที่ใช้เครื่อง L ก็จะเป็น LN คราวน์ ที่ใช้เครื่อง M ก็จะเป็น MS คราวน์ที่ใช้เครื่อง JZ ก็จะเป็น JZS เครสซิด้า ทีใช้เครื่อง R ก็จะเป็น RX ประมาณนี้แหละครับ..
ขอบคุณพี่ลูแปงมากเลยนะครับ สำหรับเมื่อวานนี้ ผมได้เจอตัวจริงเสียงจริงเลยอ่ะครับ และก็ RT 94 ตัวจริงเลย ขอบคุณมากๆเลยครับพี่ ป.ล. ชอบรถพี่มากๆเลยครับ
ผมก็มีอยู่คันครับ มีพาวเวอร์ ไม่รู้ว่ามันหายากนะครับ แต่ ตอนนี้กำลัง หา อะไหล่ยางขอบกระจกหน้า-หลัง อยู่ ยางมันหมดสภาพละ ภายในแปลง คอนโซลเป็น โคโรนา ตัว 80 กว่าๆ มั้ง
ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พวกขอบยางต่างๆ ตอนนี้คงหายากน่าดูเลยอ่ะครับ แต่ความสนุกของการเล่นรถเก่ามันอยู่ตรงนี้แหละครับ อิอิ
